ก่อนที่จะดูรายละเอียดด้านล่าง ควรจะต้องมีความเข้าใจว่าการที่เครื่องแต่ละเครื่องคุยกันผ่าน IP นั้นมีการทำงานประมาณไหน ถ้ายังไม่เข้าใจหลักการเบื้องต้นสามารถเข้าไปศึกษาหลักการเบื้องต้นได้ที่นี่
เราสามารถแบ่งได้เป็น 2 วิธีการคือ
ข้อมูลตัวอย่าง
Private IP
- FTP Server: 192.168.0.1
- Web Server 1: 192.168.0.2
- Web Server 2: 192.168.0.3
Public IP
- 123.123.123.0/29
1. NAT one to one (Static NAT)
- คือการนำ Private IP และ Public IP มา map กันโดยตรง
ตัวอย่าง FTP Server 192.168.0.1 นำมา map กับ Public IP: 123.123.123.3
วิธีการเรียกใช้งานสามารถเรียก Public IP 123.123.123.3 ได้โดยตรงเลย
ซึ่งวิธีการนี้จะใช้ 1 Public IP ต่อ 1 Private IP, ถ้ามีอุปกรณ์ที่ต้องใช้งาน 10 ตัวต้องใช้ Public IP 10 IPs
2. Port Forwarding (PAT)
- ก็เป็นการนำ Private IP และ Public IP มา map กันเช่นกัน แต่มีการใช้ Port Number เข้ามา map ด้วย
ตัวอย่าง
Web Server 1: 192.168.0.2 Port: 443 นำมา map กับ Public IP: 123.123.123.3 Port 443
Web Server 2: 192.168.0.3 Port: 443 นำมา map กับ Public IP: 123.123.123.3 Port 8443
วิธีการเรียกใช้งานจากภายนอกจะเป็นดังนี้
Web Server 1: 123.123.123.3:443
Web Server 2: 123.123.123.3:8443
ซึ่งวิธีการนี้เราสามารถใช้เพียง 1 Public IP สำหรับอุปกรณ์มากกว่า 1 ตัวได้
เปรียบเทียบ